วันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ประวัติวัดเขาพระ และ สภาพแวดล้อมในชุมชน

ประวัติวัดเขาพระ ตำบลทับคาง อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี

ประวัติวัดเขาพระ

วัดเขาพระ ตั้งอยู่เลขที่ ๙๑ หมู่ที่ ๑ ตำบลทับคาง อำเภอเขาย้อย
จังหวัดเพชรบุรี รหัสไปรษณีย์ ๗๖๑๔๐ ตั้งเป็นวัดเมื่อวันที่ ๒๕ กันยายน พ.ศ.
๒๕๑๐ ตั้งชื่อวัดตามพุทธลักษณะของพระพุทธรูปสำคัญที่ชาวบ้านนิยมเรียกกันว่า“หลวงพ่อหิน” เพราะเป็นหินที่แกะสลักเฉพาะพระเศียรพระพุทธรูปและที่พระพักตร์บนพระนลาฎ (หน้าผาก) แกะเป็นพระพุทธรูปอีกครั้งหนึ่งแล้วนำพระเศียรไปต่อเชื่อมกับองค์พระพุทธรูปที่ปั้นขึ้น

ที่ตั้งวัดเขาพระ เป็นเนินภูเขาไม่สูงมากนัก ชาวบ้านเรียกกันว่า “เขาพระ”มีบ่อน้ำ ชาวบ้านเรียกว่า “บ่อทอง” เพราะเดิมเป็นเหมืองทองคำ
ปัจจุบันเลิกทำเหมืองทองคำ เมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๕๐๐

วัดเขาพระ เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย
ไม่ปรากฏชื่อผู้ขออนุญาตสร้างวัด ที่ดินตั้งวัดจำนวนเนื้อที่ ๑๔ ไร่ ๗๐ ตารางวาตามหลักฐานที่ดิน นส. ๓ เล่ม ๑ หน้า ๑๖๔ มีนายเนียม บุญมณี เป็นเจ้าของที่ดินยกให้เพื่อสร้างวัด เมื่อวันที่ ๑๓ กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๑ ซึ่งมีอาณาเขตของ
ที่ดินดังนี้
ทิศเหนือ จรดลำห้วย 
ทิศใต้ จรดทางเกวียน
ทิศตะวันออก จรดทางเกวียน 
ทิศตะวันตก จรดลำห้วย
เมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๔ พระครูภาวนาวิริยาจารย์ (สุธรรม)
หรือที่ชาวบ้านเรียกท่านว่า “หลวงพ่อบุญ” เจ้าอาวาสวัดเขาพระ ท่านเล่าให้นายแฉล้มสุยพงษ์พันธ์ ฟังและได้บันทึกเป็นเรื่องเล่าจากหลวงพ่อไว้ว่าท่าน (หลวงพ่อบุญ)


พร้อมด้วยพระอินทร์คำ ทั้งสองเป็นศิษย์ของหลวงพ่อสด (พระมงคลเทพมุนี)วัดปากน้ำภาษีเจริญ ธนบุรี ได้เดินธุดงค์มาตามถนนเพชรเกษม ถึงบ้านดอนทรายตำบลทับคาง มีทางแยกเป็นทางเกวียนไปทางทิศตะวันตกจึงเดินตามทางเกวียนต่อด้วยการเดินบุกป่ามาจนถึงเนินเขาพระ ระยะทางประมาณ ๕กิโลเมตร พิจารณาว่า ภูเขาแห่งนี้ เป็นที่สงบ สงัด เงียบ เหมาะแก่การเจริญวิปัสสนา
ปฏิบัติกรรมฐาน ตามแนวทาง “วิชาธรรมกาย” จึงพักอาศัยอยู่ที่นี่
โดยใช้กลดกางเป็นที่พักทั้ง ๒ รูปต่อมาได้ปลูกสร้างเป็นเพิงที่พักหลังเล็กๆ ๒ หลังข้างบนเนินเขา และเผยแพร่วิชาธรรมกายได้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น


หลวงพ่อบุญ (พระครูภาวนาวิริยาจารย์) เล่าต่อไปว่า นับจากนั้นไม่นานนักประชาชนทั้งในท้องถิ่นและต่างท้องถิ่น ได้ร่วมกันสร้างศาลาเอนกประสงค์เพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมต่างๆ และ เริ่มทยอยจัดสร้างเสนาสนะขึ้นอีกหลายหลังเมื่อพิจารณาเห็นว่าชาวบ้านทั่วไปมีความศรัทธาและเริ่มมาจัดกิจกรรมมากขึ้นท่านจึงได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ และเข้าพบอธิบดีกรมที่ดิน อธิบดีกรมป่าไม้ และ อธิบดีกรมชลประทาน เพื่อขออนุญาตดำเนินการสร้างวัด ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์จากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดี จนสามารถสร้างวัด
และได้รับอนุญาตให้ตั้งเป็นวัด เมื่อวันที่ ๒๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๑๐โดยที่ดินรอบบริเวณเขาพระเป็นที่จับจองของบรรดานายทหารนายตำรวจหลายราย รายละ ๖๐ ไร่ จนถึง ๑๐๐ ไร่
และที่ดินเหล่านี้ต้องมีอายุการจับจองเกิน ๑๐ ปี จึงจะทำการออกโฉนดที่ดินได้ ซึ่งผู้จับจองที่ดินเหล่านี้ได้ดำเนินการออกโฉนดและทำพินัยกรรมระบุถวายให้วัดเขาพระไว้ โดยระบุว่า “ห้ามบุคคลที่อยู่เบื้องหลังคัดค้านโดยเด็ดขาด”ปัจจุบันวัดได้ขอออกโฉนดที่ดินเป็นของวัดเขาพระเรียบร้อยแล้ว รวมเป็นเนื้อที่ ๘๐๐ ไร่ เศษ


ในปี พ.ศ. ๒๕๑๐ เมื่อได้รับอนุญาตให้ตั้งเป็นวัดแล้วสมเด็จพระพุฒาจารย์ เจ้าอาวาสวัดสามพระยาในขณะนั้นได้แต่งตั้งให้พระสมุห์สุธรรม ถิราโส (พระครูภาวนาวิริยาจารย์)ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นโทเป็นเจ้าอาวาสวัดเขาพระ นับเป็นเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดเขาพระ




เมื่อวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๑ พันโทผัน คุณนายชื่น และคุณรัตนาภรณ์ (แดง) อินทรกำแหง ณ นครราชสีมา ได้ชักชวนญาติสนิทมิตรสหายพร้อมเพื่อนที่เป็นทหาร ทั้งผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชา มาร่วมสร้างอุโบสถบนยอดเขาเป็นอุโบสถ ๒ ชั้น มีประตูด้านหน้า และด้านข้าง ข้างละประตู ชั้นบนเป็นสถานที่ประดิษฐานพระประธาน
และประกอบสังฆกรรม


ส่วนชั้นล่างเป็นที่พักของผู้ปฏิบัติธรรม


ทางเข้าอุโสถชั้นล่าง ภายในชั้นล่างอุโบสถ



โดยมีหลวงจบกระบวนยุทธ เป็นประธาน และ มีผู้ร่วมเป็นกรรมการหลายท่าน อาทิ ขุนทยานรานรอน พลโทบัญญัติ นิลคุปต์
พลตรีประเสริฐ รอดบางยาง เจ้ากรมทหารช่างราชบุรีพันเอกณรงค์ กิตติขจรพันเอกยุทธศักดิ์ คล่องตรวจโรค (ยศใน ขณะนั้น) นายลิขิตสมาขัน นายซิพุฒ แซ่ด่านเป็นต้น ได้กราบบังคมทูลเชิญสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี เสด็จมาเป็นองค์ประธานวางศิลาฤกษ์อุโบสถในปี พ.ศ. ๒๕๑๑

เมื่อก่อสร้างอุโบสถเสร็จเรียบร้อยแล้ว คณะกรรมการดำเนินการก่อสร้างได้กราบบังคมทูลเชิญ 
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙


มาทรงยกช่อฟ้าอุโบสถและฝังลูกนิมิตซึ่งเสด็จมาพร้อมด้วยพระเจ้าลูกยาเธอทั้ง ๒ พระองค์ เมื่อวันที่ ๒๙ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๑๖
และทรงปลูกต้นโพธิ์ศรีลังกาไว้ในอุทยานพระพุทธศาสนา ๑ ต้น



วัดเขาพระ มีที่ธรณีสงฆ์ ที่มีโฉนดที่ดินแล้ว อีกจำนวน ๗ แปลง ได้แก่
โฉนดเลขที่ ๗๖๕๓, ๗๖๕๕, ๗๖๖๐, ๗๖๖๑, ๗๖๖๒, ๗๖๖๓ และ ๗๖๗๐ เนื้อที่รวม ๓๖๐ ไร่ ๓ งาน ๔ ตารางวา สภาพทั่วไปของวัดเป็นป่าไม้เบญจพันธุ์ ดินอุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การเพาะปลูก พระครูภาวนาวิริยาจารย์เจ้าอาวาสวัดเขาพระรูปแรก ได้พัฒนาและอนุรักษ์ป่าไม้ไว้อย่างสมบูรณ์บริบูรณ์




๑. งานสาธารณูปการ (งานก่อสร้างเสนาสนะ) 

วัดเขาพระ ได้เริ่มสร้างกุฏิสงฆ์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๑๐ จนถึงประมาณปี พ.ศ. ๒๕๔๐ สมัยพระครูภาวนาวิริยาจารย์ เป็นเจ้าอาวาส เป็นอาคารไม้ ๑๐ หลัง เป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ ๘ หลัง และเป็นอาคารตึก ๒ หลัง รวม ๒๐ หลังพร้อมสร้างศาลาการเปรียญ 
กว้าง ๗ เมตร ยาว ๑๖ เมตร





วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๑ เริ่มสร้างอุโบสถ เป็นอาคารครึ่งตึก
ครึ่งไม้ ขนาดกว้าง ๖เมตร ยาว ๑๒ เมตร และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ในปี พ.ศ. ๒๕๑๑ โดยมีเขตวิสุงคามสีมา 
กว้าง ๒๐ เมตร ยาว ๔๐ เมตร

ปี พ.ศ. ๒๕๒๓ ได้สร้างวิหาร เป็นอาคารไม้สักชั้นเดียว 
ยกพื้นสูง ขนาดกว้าง ๑๐.๒๐ เมตร ยาว ๑๕.๓๐ เมตร 
พร้อมสร้างศาลาเอนกประสงค์ เป็นอาคารคอนกรีต
ขนาดกว้าง ๑๒.๕๐ เมตร ยาว ๑๕.๓๐ เมตร






ปี พ.ศ. ๒๕๓๑ ได้สร้างเจดีย์บรรจุ พระบรมสารีริกธาตุ
พร้อมโรงครัว โรงจอดรถ

ปี พ.ศ. ๒๕๔๒ ได้สร้างเจดีย์บรรจุพระไตรปิฎกหินอ่อน
ที่เหลือจากพุทธมณฑล

เมื่อวันที่ ๓ พฤษภาคมพ.ศ.๒๕๔๑สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ขณะดำรงสมณศักดิ์ที่ พระราชวรเวทีได้เดินทางมาเยี่ยมพระครูภาวนาวิริยาจารย์ และพักค้างที่วัดเขาพระ
ได้พิจารณาเห็นว่าวัดเขาพระ เป็นสถานที่สงบเงียบสงัด ร่มเย็นดีมาก
สมควรสร้างเป็นสถานพยาบาลและพักฟื้นของผู้สูงอายุจึงได้มอบปัจจัยเป็นทุนในการก่อสร้าง และให้ชื่ออาคารว่า “ตึกมงคลภาวนาบดี” เป็นอาคารคอนกรีต ๒ ชั้นชั้นล่างกั้นเป็นห้องๆ





๒. งานการปกครอง


วัดเขาพระ ถือปฏิบัติ ภายใต้การปกครองคณะสงฆ์ระดับตำบล
คือเจ้าคณะตำบลทับคาง ระดับอำเภอ คือ เจ้าคณะอำเภอเขาย้อย ระดับจังหวัด คือ เจ้าคณะจังหวัดเพชรบุรี เจ้าคณะภาค คือ ภาค ๑๕
และอยู่ในการปกครองของเจ้าคณะใหญ่หนกลาง และมหาเถรสมาคม
โดยมีเจ้าอาวาสปกครองวัด ตามลำดับดังนี้
เจ้าอาวาสรูปแรก คือ พระครูภาวนาวิริยาจารย์ (สุธรรม )
ปกครองวัดตั้งแต่วันที่ ๒๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๑๐ ถึงวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๔ (มรณภาพ)

ปี พ.ศ. ๒๕๔๔ - ๒๕๔๕ พระสุทัน ทนฺตจิตฺโต รักษาการเจ้าอาวาส
ปี พ.ศ. ๒๕๔๖ คณะสงฆ์จังหวัดเพชรบุรี

ได้แต่งตั้งให้พระอธิการน้อย วณฺณวุฑฺฒโก
ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเขาพระ นับเป็นเจ้าอาวาส
รูปที่ ๒ และได้มรณภาพ เมื่อวันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๙


วันที่ ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๙ เจ้าคณะตำบลทับคาง (พระครูจันทวชิรคุณเจ้าอาวาสวัดดอนทราย) ได้แต่งตั้งให้พระครูสมุห์ สมบัติ ปภสฺสโรผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสพิชภาราม ตำบลแก้งเหนือ
อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี เป็นผู้รักษาการณ์เจ้าอาวาส และได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส เมื่อวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๙



๓. งานการศาสนศึกษา (การศึกษาสงฆ์)


วัดเขาพระ ได้จัดตั้งโรงเรียนสอนพระปริยัติธรรม และเปิดสอนแผนกธรรม
ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๑๙ เป็นต้นมา

๔. งานการเผยแผ่


วัดเขาพระ โดยพระครูภาวนาวิริยาจารย์

ได้เชิญชวนพุทธศาสนิกชนศึกษาหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนารวมทั้งจัดให้มีการรักษาศีล สวดมนต์ ฟังธรรม ปฏิบัติธรรม
(วิปัสสนา)และยังได้รับการจัดตั้งเป็นหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลทับคางตามมติมหาเถรสมาคม ปี พ.ศ. ๒๕๑๘
ซึ่งกำหนดให้ดำเนินกิจกรรมส่งเสริมประชาชนในดำรงชีวิตด้วยหลัก ๘ ประการ คือ
๑. ศีลธรรมและวัฒนธรรม 
๒. สุขภาพอนามัย
๓. สัมมาชีพ 
๔. สันติสุข
๕. ศึกษาสงเคราะห์ 
๖. สาธารณสงเคราะห์
๗. กตัญญูกตเวทีตาธรรม 
๘. สามัคคีธรรม
พระครูสมุห์สมบัติ ปภสฺสโร เจ้าอาวาสรูปที่ ๓ ได้พัฒนาฟื้นฟูกิจกรรมของหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล ต่อมา และ ส่งเสริมการปฏิบัติธรรม การสวดมนต์ รักษาศีล เจริญจิตภาวนา ทุกวันอาทิตย์
จนได้รับมติมหาเถรสมาคม ให้จัดตั้งเป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดเพชรบุรีแห่งที่ ๒๙ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๖๐

๕. งานสาธารณประโยชน์


นอกจากการอำนวยความสะดวกแก่พุทธศาสนิกชนในการจัดกิจกรรมภายในวัดแล้ว ในปี พ.ศ. ๒๕๑๗ ยังเอื้อเฟื้อต่อนักธรณีวิทยา ให้ศึกษาการค้นพบซากสัตว์โบราณ อายุประมาณ ๔๔๐ ถึง ๓๒๕ ล้านปี
พร้อมหินที่มีคุณลักษณะคล้ายหินที่ต้นพบที่อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี

๖. งานการศึกษาสงเคราะห์


วัดเขาพระ โดยเจ้าอาวาสนับตั้งแต่เจ้าอาวาสรูปแรก เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันจัดให้มีการมอบทุนการศึกษาแก่เด็กและเยาวชนโดยเฉพาะนักเรียนระดับประถมศึกษา เป็นประจำทุกปี ปีละประมาณ ๒๐ ทุน ทุนละ ๕๐๐ บาท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น